Startup Fintech ต้องตามติด 10 เทคโนโลยีใหม่ เหล่านี้เอาไว้ให้ดี

เวทีสัมมนา “Fintech Dynamics in Asia ” ที่ C asean เป็นการรวบรวมกูรูจากกลุ่มต่างๆ ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการเงิน มาเปิดโอกาสในการสร้างเครือข่าย และแบ่งปันประสบการณ์ และเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ที่น่าจับตามองที่ Startup Fintech ไม่ควรพลาด

ทั้งนี้ภายในงานดังกล่าว สถาบันที่ปรึกษาด้านการเงินและธนาคาร IDC Financial Insights ได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในตลาด โดยอ้างอิงถึงการคาดการณ์ที่สำคัญ สำหรับบริการทางการเงิน อันเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย FutureScape  ซึ่งเป็นเอกสารแสดงถึงแนวโน้มสำคัญที่ต้องจับตามองในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในกลุ่มฟินเทค ควรติดตามเพื่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นในการรองรับการเชื่อมต่อเทคโนโลยีดังกล่าว

 

เทคโนโลยีที่สำคัญ 10 อันดับที่ Startup Fintech ต้องจับตามอง

  1. 15% ของธนาคารทั้งหมด จะใช้การวิเคราะห์พฤติกรรมด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การทุจริต และการป้องกัน/การตรวจจับทางไซเบอร์ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและบทลงโทษ
  2. ในปี 2020 เทคโนโลยี Blockchain/distributed ledger จะถูกพัฒนามาใช้การทำธุรกรรมสินเชื่อเพื่อการค้า (Trade finance) ทั่วโลกถึง 20%
  3. ปี 2019 การพัฒนา Cloud จะช่วยลดการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของธนาคารชั้นนำถึง 25%
  4. ในปี 2018 การจ่ายเงินด้วยมือถือโดย Near-field communication (NFC) ทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นถึง 15% สะท้อนถึงความไม่แน่นอนว่าใครจะเป็นเจ้าของอุปกรณ์นี้
  5. Disruptive Technology ต่างๆ หรือเทคโนโลยีที่สร้างตลาดใหม่และสร้างคุณค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ รวมถึงเทคโนโลยีแบบ Cognitive ระบบอัตโนมัติที่ใช้หุ่นยนต์ Robotic process automation (RPA) และ Blockchain จะถูกนำมาใช้ถึง 50% ของธนาคารทั่วโลกในปี 2020 และเพิ่มการปฏิวัติดิจิทัลถึง 30%
  6. การลงทุนใน Third Platform การค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ จะเติบโตขึ้นถึงสองเท่าของอัตราการใช้จ่ายทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสถาบันที่ให้บริการทางการเงิน (FSIs) ทั้งหมดในปี 2020 ในขณะที่การใช้จ่ายเพื่อเทคโนโลยีสารสนเทศทั่วโลกสูงกว่า 5 แสนล้านดอลล่าร์
  7. ในความพยายามที่จะสนับสนุนการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าแบบ live chat ประมาณ 20% ของธนาคารจะเริ่มโครงการทดสอบความเป็นไปได้ (Proof-of-Concept) ที่จะรวมทุกการสนทนาและการเชื่อมต่อต่างๆ ในรูปแบบการเข้าถึงลูกค้าจากทุกช่องทาง (omni-channel) ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ในปี 2560 นี้
  8. ในปี 2018 ทุกๆ การบริหารความมั่งคั่งและบริษัทตลาดทุนจะสร้างหรือให้สิทธิใช้แพลตฟอร์มหุ่นยนต์ที่ปรึกษา (Robo-Advisor Platform) หรือใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence)ในการจัดการเงินทุน
  9. ในปี 2019 ประกันภัยที่ขึ้นอยู่กับการใช้จริง (UBI) จะถูกสร้างขึ้นโดย Internet of Things (IoT) และถูกใช้อย่างน้อย 15% ในตลาดประกันรถยนต์ทั่วโลก และ 10% ในตลาดประกันที่อยู่อาศัยทั่วโลก
  10. ในขณะที่การพัฒนาอย่างทั่วถึงจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ในปี 2017 เทคโนโลยีแบบ Cognitive จะถูกนำมาใช้ 15% ของธนาคาร โดยจะนำเสนอ “Voice banking” บนอุปกรณ์ต่างๆ ให้แก่ลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน อุตสาหกรรมบริการทางการเงิน รวมทั้ง ฟินเทคต้องการเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะพัฒนา “ทุกอย่างที่จะช่วยนำสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาด” จากโครงสร้างพื้นฐาน ไปสู่การประมวลผล การพัฒนาแอพพลิเคชั่น กระบวนการทำงานที่เข้าถึงง่ายและสะดวก ตลอดจนความสามารถในการทำงานของแอพพลิเคชั่น สถาบันที่ให้บริการทางการเงินทั่วไปจะเสียประโยชน์อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงซึ่งตกทอดมาจากยุคก่อน ในขณะที่ต้องประเมินว่าเทคโนโลยีอะไรที่จะนำมาผสมผสานกับเทคโนโลยีในอนาคต นี่จึงถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ ผู้ประกอบการStartup ในกลุ่ม Fintech

 

source: thaiquote.org/content/22312

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *