รายละเอียดเพิ่มเติม
ป้องกันเชื้อรา ปลอดสารพิษ
ไอ.เอส. สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา ปลอดสารพิษ
ตราดับเบิ้ลชีลด์
ขนาด 3 ลิตร
ใบไหม้ ใบจุด ใบขีด ราสนิม
– สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราสาเหตุโรคพืช
– ควบคุมด้วยประจุไฟฟ้า (ION Control) ทำให้สภาพแวดล้อมบนใบพืชไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา
– สามารถฉีดพ่นได้ในช่วงก่อนการเก็บเกี่ยวโดยไม่มีสารพิษตกค้าง ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้บริโภค
– เคลือบผิวใบได้ดี โดยไม่ต้องผสมสารจับใบ
ไอเอส สารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมด ผ่านการวิจัยพัฒนา เพื่อคัดเลือกวัตถุดับที่มีประสิทธิภาพสูงในการควบคุม และยับยั้งเชื้อรา ด้วยเทคโนโลยี “การควบคุมด้วยประจุไฟฟ้า (Ion Control)” โดยควบคุมสภาพแวดล้อมที่ผิวใบพืช ทำให้เกิดภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และการขยายพันธุ์ของเชื้อรา อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดติดผิวใบพืชได้ดียิ่งขึ้น ปลอดภัยต่อผู้ใช้และผู้ใช้และผู้บริโภค
คุณประโยชน์
– ป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา สาเหตุโรคในพืชต่างๆ
– ลดการแพร่กระจายของเชื้อราที่เกิดกับพืช
– ป้องกันการลุกลามของแผลที่เกิดจากการเข้าทำลายของเชื้อรา
– มีความต้านทานโรคเพิ่มขึ้น เมื่อใช้เป็นประจำ
ใช้ควบคุมและยับยั้งโรค
– โรคใบไหม้ (Blast)
– โรคใบจุดสีน้ำตาล (Brown Spot)
– โรคราสนิม (Rust)
– โรคใบขีดสีน้ำตาล (Narrow Brown Spot)
วิธีการใช้
– ใช้แช่เมล็ดก่อนปลูก 15-20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้ 1 คืน
– ใช้ป้องกันและยับยั้งเชื้อรา 30-50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุก 5-7 วัน
(เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด ควรฉีดพ่นเป็นประจำ และใช้ควบคู่กับ ปุ๋ยน้ำ เอฟเค-1)
คำแนะนำ
เขย่าขวดก่อนใช้ ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น หากใช้ร่วมกับสารเคมีอื่น ควรผสมสารเคมีกับน้ำก่อน แล้วจึงเติมสารอินทรีย์ยับยั้งเชื้อรา ไอเอส ตราดับเบิ้ลชีลด์ ตามอัตราส่วนที่แนะนำ
วิธีเก็บรักษา
ต้องเก็บสารกำจัดเชื้อราไว้ในภาชนะที่ปิดแน่น และมีฉลากปิด ห่างจากเด็ก อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์เลี้ยง และเปลวไฟ
คำเตือน
เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ และสิ่งมีชีวิตอื่น ผู้ใช้ต้องปฏิบัติดังนี้
– ขณะผสมควรสวมถุงมือและปิดจมูก เพื่อป้องกันไม่ใช้สารเข้มข้นถูกผิวหนัง หรือกระเด็นเข้าตา
– ขณะพ่นต้องอยู่เหนือลมเสมอ
– ระวังอย่าให้เข้าปาก ตา จมูก หรือถูกผิวหนังและเสื้อผ้า
– ห้ามดื่มน้ำ กินอาหาร หรือสูบบุหรี่ในเวลาปฏิบัติงาน
– ล้างมือและหน้าให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ก่อนกินอาหาร ดื่มน้ำ และสูบบุหรี่
– หลังจากพ่นสารแล้ว ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และซักชุดที่สวมทำงานให้สะอาด
– สารนี้เป็นพิษต่อปลา ให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง
– ภาชนะบรรจุเมื่อใช้หมดแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำ 3 ครั้งก่อนทำลาย แล้วฝังดินเสีย ห้ามเผาไฟหรือนำกลับมาใช้อีก
อาการเกิดพิษ
ผู้ได้รับพิษจะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง หายใจติดขัด หากสัมผัสผิวหนังจะเกิดอาการผื่นคัน
การแก้พิษเบื้องต้น
– หากเกิดอาการเนื่องจากพิษให้รีบนำผู้ป่วยออกจากบริเวณที่มีการใช้สาร ให้ผักผ่อนในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
– ถ้าสัมผัสผิวหนังให้ล้างออกด้วนน้ำสะอาดและสบู่ หลายๆครัง หากเข้าตาควรล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้ง
– หากเปื้อนเสี้ยผ้าให้รีบอาบน้ำ และเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทันที
– หากกลืนกิน กระตุ้นให้อาเจียน และถ่ายท้องด้วยโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต แล้วรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันทีพร้อมภาชนะบรรจุและฉลากของสารนั้น
คำแนะนำสำหรับแพทย์
1. ช่วยผู้ป่วยให้หายใจสะดวก โดยใช้เครื่องช่วยหายใจ หรือผายปอดให้ผู้ป่วย
2. ในรายที่ต้องล้างท้อง ควรใช้โพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต แล้วตามด้วยการให้ถ่านดูดซับ (activated charcoal)
3. รักษาตามอาการ
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์